กังวลเรื่องปัญหาสิว ต้องรู้แนวทางรักษา
สิว (Acne Vulgaris) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน (Sebum) ภายในผิว ซึ่งได้ผลิตและคายไขมันตามธรรมชาติออกมามากเกินไป จึงทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนในผิวหนัง กลายเป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่มีไตสีขาวอยู่ด้านใน และจะแย่ไปกว่านั้น หากมีแบคทีเรียอยู่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดสิวเห่อเป็นจำนวนมาก กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด
สิว ปัญหาปกติที่ใครๆ ก็เป็นกัน แต่ก่อความกังวลใจให้เราไม่น้อยแถมยังลดความมั่นใจลงไปอีกฮวบใหญ่ เฮ้อ จะทำยังไงดีนะหาหมอก็แล้ว เลเซอร์ก็หมดไปหลายบาทแต่เอ.. เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ You are what you eat. หรือกินอะไรก็ได้แบบนั้นเรื่องสิวๆ บางทีถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ตั้งแต่อาหารที่เอาเข้าปากแล้วล่ะ เราจึงนำเคล็ดไม่ลับว่าด้วยการกินรักษาสิวมาฝากกันไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ
สิวแต่ละประเภทต่างกันนะ
- สิวหัวดำ – ไม่ใช่สิวที่เกิดจากการติดเชื่อแต่เกิดจากการอุดตันจากรูขุมขนเมื่อเจอออกซิเจนจนกลายเป็นจุดดำๆ เล็กๆ บนผิวหนังกดออกง่าย
- สิวหัวขาว – เป็นสิวที่เกิดจากรูขุมขนอุดตันที่มีผิวหนังชั้นบางๆ สีขาวเคลือบไว้เป็นจุดหรือตุ่มเล็กๆ กดออกง่าย
- สิวตุ่มนูนแดง – เกิดจากการอักเสบติดเชื่อจึงทำให้มีสีแดงผิวตรงนั้นจะอ่อนแอและเจ็บเป็นพิเศษไม่ควรกด
- สิวหนอง – เกิดจากการอักเสบเป็นตุ่มหนองอู่ด้านในอาจเป็นตุ่มขาวหรือเหลืองก็ได้
- สิวหัวนูน – เป็นสิวชนิดรุนแรงที่เกิดจากการอักเสบใต้ผิวหนัง กดไม่ออกและยังเจ็บมากเมื่อสัมผัส
- ถุงน้ำ/ซีสต์ – เป็นสิวอักเสบรุนแรงสุดๆ ในถุงน้ำจะมีหนองอยู่กดไม่ออกต้องใช้วิธีผ่าตัดเพื่อเอาออก
ปัจจัยการเกิดสิว
- พันธุกรรม พบว่าถ้าบิดาหรือมารดาเป็นสิวรุนแรงโอกาสที่บุตรจะเป็นสิวขั้นรุนแรงมีถึงหนึ่งในสี่
- ฮอร์โมน Dehydroepian drosterone-Sulfate (DHEA-S) จากต่อมหมวกไตซึ่งนอกจากระดับของฮอร์โมนเหล่านี้ที่สูงขึ้นในช่วงวัยรุ่นแล้วบางครั้งยังเกิดจากความไวต่อการตอบสนองของตัวรับสัญญาณฮอร์โมนที่ผิวหนังอีกด้วย
- การขับของซีบัม (Sebum) หรือไขมันที่มากเกินไปร่วมกับการอุดตันของเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดและการอักเสบที่สัมพันธ์กับเชื้อแบคทีเรียชนิด Pro pionibacterium acnes (P.Acnes)
- ปัจจัยภายนอกร่างกาย ได้แก่ การใช้เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แชมพูและครีมนวดผม การใช้ยาบางประเภทก็อาจจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตออกมามากเกินปกติ นอกจากนี้ การเสียดสีบนผิว เช่น การสวมใส่หมวกหรือหมวกกันน็อค และการขัดผิวที่รุนแรง เป็นต้น
การแก้ไขปัญหาและการป้องกัน
- ไม่ใช้เครื่องสำอางรองพื้นที่หนาเกินไป ควรใช้เครื่องสำอางชนิดมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (Water- based) และเป็นชนิดที่ไม่ก่อสิว (Non-comedogenic) หลีกเลี่ยงการใช้ชนิดมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก (Oil-based)
- ไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้งเพราะการล้างหน้าบ่อยๆก่อการระคายเคืองต่อเซลล์ผิว
- ล้างเครื่องสำอางใบหน้าออกให้สะอาดก่อนนอนเสมอเพราะเป็นสาเหตุก่อการอุดตันของซีบัม
- ไม่แกะสิวหรือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เพราะเพิ่มโอกาสผิวติดเชื้อแบคทีเรีย
- ฝึกผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ระบบฮอร์โมนของร่างกายทำงานได้อย่างมีสมดุล
- การรักษาสิวมีหลากหลายทางเลือกและหลายวิธี แต่วิธีใดจะดีที่สุดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอาการของสิว การดูแลผิวที่ดีเป็นแค่เพียงวิธีเบื้องต้นในการปกป้องไม่ให้เกิดสิว และไม่เป็นสิวอักเสบ หรือสิวอุดตัน
อาหาร…จุดเริ่มต้นการมีสุขภาพผิวที่ดี
- ลดหวาน – น้ำตาลนี่แหละค่า ตัวก่อให้เกิดสิว ใครชอบทานหวานนี่ ลดได้ลดเลยนะคะ เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป อิซูลินก็จะหลังมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะไปกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายเราโดยเฉพาะฮอร์โมนของความเครียดที่จะไปดันสิวให้ผุดออกมานั่นเอง
- ลดแป้ง – เป็นสิ่งที่ทำใจได้ยาก แต่ก็ควรจะทำให้ได้หากอยากจะลดสิวที่เปล่งประกายบนใบหน้า เพราะแป้งเมื่อเข้าร่างกาย ก็จะย่อยกลายเป็นน้ำตาลและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อไปยังเรื่องเซลล์ที่จะอักเสบง่าย และผิวพรรณที่มีปัญหาสิวอยู่แล้วทรุดลงกว่าเดิม
- เพิ่มผัก ผลไม้ – ผัก และผลไม้นั้นดีต่อร่างกายและผิวมากๆ ทั้งช่วยในเรื่องริ้วรอย และลดการอักเสบของผิวตามธรรมชาติ สุดท้ายช่วยให้ผิวแข็งแรงทนต่อแสงแดดอีกด้วย
- ดื่มน้ำเปล่า – น้ำเปล่า เป็นน้ำที่ดีที่สุดแล้วต่อร่างกาย ควรดื่มให้ได้มาก จนครบวันละ 8 แก้ว และควรทำให้เป็นนิสัย เพราะร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ หากขาดน้ำไปผิวพรรณจะแห้งเหี่ยว ยิ่งส่งผลให้การซ่อมแซมผิวจากสิวนั้นช้าลงไปอีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมดื่มน้ำให้ครบ วันละ 8 แก้วต่อวันนะคะ
เสริมความสมดุลให้ร่างกายด้วยกรดไขมันโอเมกา 3
การทานโอเมกา 3 จะช่วยยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทำให้ร่างกายทำงานเข้าสู่สมดุลได้ เพราะโอเมกาเป็นกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และต้านการอักเสบได้ดี จึงทำให้สิวอักเสบของเราลดลง อาการผื่นแดงตามผิวหนังลดลง ยังไม่พอเท่านั้น โอเมกา ยังมีส่วนเข้าไปช่วยให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื่นในผิวได้มากขึ้น ผิวจึงไม่แห้งกร้าน และกลับมาผลัดผิวให้สดใสได้เร็ววัน ผิวพรรณจึงผุดผ่อง เมื่อเราได้รับ สาร โอเมกาเข้าไปเพียงพอนั่นเอง
เอาละ เห็นมั้ยละว่าปัญหาสิวๆ ไม่ได้มาจากภายนอกเพียงอย่างเดียว หากเราเริ่มบำรุงจากภายในกันตั้งแต่ตอนนี้ ร่างกายก็จะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็น หากใครทำตามนี้ได้ รับประกันได้เลยว่า สิวจ๋า…ลาก่อนแน่นอน ไม่ว่าจะเป้นวัยไหน อายุเท่าไหร่ ก็หมดกังวลกันได้เลยละนะ
อ้างอิง: pobpad.com | haamor.com