ORGANOID

ป้องกันสิวอักเสบ เริ่มต้นที่อาหาร เสริมความสมดุลด้วยโอเมกา 3

กังวลเรื่องปัญหาสิว ต้องรู้แนวทางรักษา

สิว (Acne Vulgaris) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมัน (Sebum) ภายในผิว ซึ่งได้ผลิตและคายไขมันตามธรรมชาติออกมามากเกินไป จึงทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนในผิวหนัง กลายเป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่มีไตสีขาวอยู่ด้านใน และจะแย่ไปกว่านั้น หากมีแบคทีเรียอยู่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดสิวเห่อเป็นจำนวนมาก กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด

สิว ปัญหาปกติที่ใครๆ ก็เป็นกัน แต่ก่อความกังวลใจให้เราไม่น้อยแถมยังลดความมั่นใจลงไปอีกฮวบใหญ่ เฮ้อ จะทำยังไงดีนะหาหมอก็แล้ว เลเซอร์ก็หมดไปหลายบาทแต่เอ.. เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ You are what you eat. หรือกินอะไรก็ได้แบบนั้นเรื่องสิวๆ บางทีถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ตั้งแต่อาหารที่เอาเข้าปากแล้วล่ะ เราจึงนำเคล็ดไม่ลับว่าด้วยการกินรักษาสิวมาฝากกันไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ

สิวแต่ละประเภทต่างกันนะ

  1. สิวหัวดำ – ไม่ใช่สิวที่เกิดจากการติดเชื่อแต่เกิดจากการอุดตันจากรูขุมขนเมื่อเจอออกซิเจนจนกลายเป็นจุดดำๆ เล็กๆ บนผิวหนังกดออกง่าย
  2. สิวหัวขาว – เป็นสิวที่เกิดจากรูขุมขนอุดตันที่มีผิวหนังชั้นบางๆ สีขาวเคลือบไว้เป็นจุดหรือตุ่มเล็กๆ กดออกง่าย
  3. สิวตุ่มนูนแดง – เกิดจากการอักเสบติดเชื่อจึงทำให้มีสีแดงผิวตรงนั้นจะอ่อนแอและเจ็บเป็นพิเศษไม่ควรกด
  4. สิวหนอง – เกิดจากการอักเสบเป็นตุ่มหนองอู่ด้านในอาจเป็นตุ่มขาวหรือเหลืองก็ได้
  5. สิวหัวนูน – เป็นสิวชนิดรุนแรงที่เกิดจากการอักเสบใต้ผิวหนัง กดไม่ออกและยังเจ็บมากเมื่อสัมผัส
  6. ถุงน้ำ/ซีสต์ – เป็นสิวอักเสบรุนแรงสุดๆ ในถุงน้ำจะมีหนองอยู่กดไม่ออกต้องใช้วิธีผ่าตัดเพื่อเอาออก
ปัญหาสิว แม้บางคนจะเกิดจากพันธุกรรม แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เกิดจากภายนอก ซึ่งคุณเองสามารถป้องกันได้ CR Photo: Min An from pexels.com

กังวลเรื่องปัญหาสิวใช่หรือไม่

รู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยเสริมความสมดุลให้ร่างกาย ป้องกันการเกิดสิวอักเสบได้

ปัจจัยการเกิดสิว

  1. พันธุกรรม พบว่าถ้าบิดาหรือมารดาเป็นสิวรุนแรงโอกาสที่บุตรจะเป็นสิวขั้นรุนแรงมีถึงหนึ่งในสี่
  2. ฮอร์โมน Dehydroepian drosterone-Sulfate (DHEA-S) จากต่อมหมวกไตซึ่งนอกจากระดับของฮอร์โมนเหล่านี้ที่สูงขึ้นในช่วงวัยรุ่นแล้วบางครั้งยังเกิดจากความไวต่อการตอบสนองของตัวรับสัญญาณฮอร์โมนที่ผิวหนังอีกด้วย
  3. การขับของซีบัม (Sebum) หรือไขมันที่มากเกินไปร่วมกับการอุดตันของเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดและการอักเสบที่สัมพันธ์กับเชื้อแบคทีเรียชนิด Pro pionibacterium acnes (P.Acnes)
  4. ปัจจัยภายนอกร่างกาย ได้แก่ การใช้เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แชมพูและครีมนวดผม การใช้ยาบางประเภทก็อาจจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตออกมามากเกินปกติ นอกจากนี้ การเสียดสีบนผิว เช่น การสวมใส่หมวกหรือหมวกกันน็อค และการขัดผิวที่รุนแรง เป็นต้น

การแก้ไขปัญหาและการป้องกัน

  1. ไม่ใช้เครื่องสำอางรองพื้นที่หนาเกินไป ควรใช้เครื่องสำอางชนิดมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (Water- based) และเป็นชนิดที่ไม่ก่อสิว (Non-comedogenic) หลีกเลี่ยงการใช้ชนิดมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก (Oil-based)
  2. ไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้งเพราะการล้างหน้าบ่อยๆก่อการระคายเคืองต่อเซลล์ผิว
  3. ล้างเครื่องสำอางใบหน้าออกให้สะอาดก่อนนอนเสมอเพราะเป็นสาเหตุก่อการอุดตันของซีบัม
  4. ไม่แกะสิวหรือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เพราะเพิ่มโอกาสผิวติดเชื้อแบคทีเรีย
  5. ฝึกผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ระบบฮอร์โมนของร่างกายทำงานได้อย่างมีสมดุล
  6. การรักษาสิวมีหลากหลายทางเลือกและหลายวิธี แต่วิธีใดจะดีที่สุดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอาการของสิว การดูแลผิวที่ดีเป็นแค่เพียงวิธีเบื้องต้นในการปกป้องไม่ให้เกิดสิว และไม่เป็นสิวอักเสบ หรือสิวอุดตัน

กังวลเรื่องปัญหาสิวใช่หรือไม่

รู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยเสริมความสมดุลให้ร่างกาย ป้องกันการเกิดสิวอักเสบได้

อาหาร…จุดเริ่มต้นการมีสุขภาพผิวที่ดี

  • ลดหวาน – น้ำตาลนี่แหละค่า ตัวก่อให้เกิดสิว ใครชอบทานหวานนี่ ลดได้ลดเลยนะคะ เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป อิซูลินก็จะหลังมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะไปกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายเราโดยเฉพาะฮอร์โมนของความเครียดที่จะไปดันสิวให้ผุดออกมานั่นเอง
  • ลดแป้ง – เป็นสิ่งที่ทำใจได้ยาก แต่ก็ควรจะทำให้ได้หากอยากจะลดสิวที่เปล่งประกายบนใบหน้า เพราะแป้งเมื่อเข้าร่างกาย ก็จะย่อยกลายเป็นน้ำตาลและเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อไปยังเรื่องเซลล์ที่จะอักเสบง่าย และผิวพรรณที่มีปัญหาสิวอยู่แล้วทรุดลงกว่าเดิม
  • เพิ่มผัก ผลไม้ – ผัก และผลไม้นั้นดีต่อร่างกายและผิวมากๆ ทั้งช่วยในเรื่องริ้วรอย และลดการอักเสบของผิวตามธรรมชาติ สุดท้ายช่วยให้ผิวแข็งแรงทนต่อแสงแดดอีกด้วย
  • ดื่มน้ำเปล่า – น้ำเปล่า เป็นน้ำที่ดีที่สุดแล้วต่อร่างกาย ควรดื่มให้ได้มาก จนครบวันละ 8 แก้ว และควรทำให้เป็นนิสัย เพราะร่างกายเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ หากขาดน้ำไปผิวพรรณจะแห้งเหี่ยว ยิ่งส่งผลให้การซ่อมแซมผิวจากสิวนั้นช้าลงไปอีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมดื่มน้ำให้ครบ วันละ 8 แก้วต่อวันนะคะ

เสริมความสมดุลให้ร่างกายด้วยกรดไขมันโอเมกา 3

การทานโอเมกา 3 จะช่วยยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทำให้ร่างกายทำงานเข้าสู่สมดุลได้ เพราะโอเมกาเป็นกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และต้านการอักเสบได้ดี จึงทำให้สิวอักเสบของเราลดลง อาการผื่นแดงตามผิวหนังลดลง ยังไม่พอเท่านั้น โอเมกา ยังมีส่วนเข้าไปช่วยให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื่นในผิวได้มากขึ้น ผิวจึงไม่แห้งกร้าน และกลับมาผลัดผิวให้สดใสได้เร็ววัน ผิวพรรณจึงผุดผ่อง เมื่อเราได้รับ สาร โอเมกาเข้าไปเพียงพอนั่นเอง

เอาละ เห็นมั้ยละว่าปัญหาสิวๆ ไม่ได้มาจากภายนอกเพียงอย่างเดียว หากเราเริ่มบำรุงจากภายในกันตั้งแต่ตอนนี้ ร่างกายก็จะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็น หากใครทำตามนี้ได้ รับประกันได้เลยว่า สิวจ๋า…ลาก่อนแน่นอน ไม่ว่าจะเป้นวัยไหน อายุเท่าไหร่ ก็หมดกังวลกันได้เลยละนะ

อ้างอิง: pobpad.com | haamor.com

กังวลเรื่องปัญหาสิวใช่หรือไม่

รู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยเสริมความสมดุลให้ร่างกาย ป้องกันการเกิดสิวอักเสบได้