อยากให้ลูกมีพัฒนาการเร็ว พ่อแม่ควรให้ลูกทานอะไรดี?
เชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกรักของเรา มีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย ฉลาดและพัฒนาการเร็ว แต่เอ๊ะ! นอกจากนมแม่แล้วยังมีอะไรที่จะทำให้ลูกของเรามีพัฒนาการที่ดีอีกบ้าง วันนี้เราจะมารู้กันค่ะ แน่นอนว่าถ้าอยากให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกายและสมองที่ดี การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ให้ลูกทานนั้นสำคัญมากเป็นอันดับแรกเลยละ เช่น ผักใบเขียว ปลาทะเล ถั่ว ไข่ ตับ ธัญพืช แครอท ฟักทอง ฝรั่ง ส้ม มะละกอ ข้าวไม่ขัดสี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันถั่วดาวอินคา ที่มีกรดไขมันโอเมกา 3,6,9 สูงก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อลูกน้อยของเรา
อยากให้ลูกมีพัฒนาการเร็วใช่หรือไม่
คุณรู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3-6-9 จากถั่วดาวอินคามีมากกว่าจากปลาทะเลถึง 50%
โอเมกา 3-6-9 มีประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กอย่างไร
น้ำมันปลาโอเมกา 3,6,9 มีประโยชน์อย่างมากมายในการช่วยการเจริญเติบโตของเด็ก
- ในเด็กเล็ก (ทารก) จะช่วยในเรื่องของการสื่อสาร เช่นการใช้สายตา การแสดงท่าทาง มีพัฒนาการด้านการเล่น และคลานไว แถมยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการอยากทดลอง เด็กในช่วงนี้ จึงมีพัฒนาการที่รวดเร็วขึ้นตามลำดับ
- ในวัยหัดเดิน จะช่วยให้รู้จักคำพูดและความจำคำศัพท์ต่างๆได้ดี มีพัฒนาการเร็วในการเรียนรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาด และสีสัน
- ในวันเด็กก่อนเรียน โอเมกา 3,6,9 จะเข้าไปส่งเสริมการอ่าน ระยะเวลาความเข้าใจ และการแก้ไขปัญหา ความเข้าใจในเชิงตัวเลข และการใช้ภาษา
- สำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป จะช่วยบำรุงสมอง และระบบความจำ ส่งเสริมให้มีสมาธิในการเรียน
- พัฒนาการของเด็กเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพัฒนาการวัยทารกและในช่วง 1-5 ปีแรก พ่อแม่ควรเฝ้าดูพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์ทุกด้าน
- สารอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารหลัก 5 หมู่นั้นสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กและพัฒนาการด้านสติปัญญา เนื่องจากในช่วงปีแรกของชีวิต การเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สารอาหารอื่น ๆ ก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการสมองของเจ้าตัวเล็กด้วย Cr : honestdocs.co
โดยรวมการที่เด็กๆได้รับ โอเมกา 3-6-9 ประโยชน์ที่ได้จะไปช่วยพัฒนาการทำงานของสมองและจิตใจ เพิ่มสมาธิ ความจำระยะสั้นและ ทักษะในการอ่าน นอกเหนือจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ ควรจะได้รับปริมาณโอเมกา 3-6-9 ในระดับสมดุลย์กับอาหารของพวกเขา[/dt_vc_list]
อยากให้ลูกมีพัฒนาการเร็วใช่หรือไม่
คุณรู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3-6-9 จากถั่วดาวอินคามีมากกว่าจากปลาทะเลถึง 50%
ปัจจัยที่ต้องส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
- อาหาร ระยะหลังคลอดถึง 6 เดือน เป็นระยะที่เด็กควรได้รับสารอาหารที่เหมาะสมที่สุด นั่นก็คือ ร่างกายของเด็กต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนทั้ง 5 หมู่
- ความรักและความเอาใจใส่ ความรู้สึกปลอดภัยและความไว้วางใจกันสิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานพัฒนาการที่สำคัญที่สุด
- การเล่น ถือเป็นการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในทุกด้านการเสริมสร้างเด็กเล็กด้วยการจัดกิจกรรมการเล่นระหว่างวันเป็นการส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กให้ดีขึ้น
- การฝึกทางภาษา ประสบการณ์ทางภาษาโดยเฉพาะการฟัง การพูด ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในด้านพัฒนาการทางสติปัญญาอารมณ์ จิตใจ และสังคม
- สภาวะแวดล้อม สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะพ่อ แม่ ควรมีความขัดแย้งในการอบรมลูกน้อยที่สุดเพื่อสุขภาพจิตและกายของลูกเป็นปกติจะช่วยให้พัฒนาการของเด็กดำเนินไปได้ดีขึ้น
การส่งเสริมให้ออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปด้วย เพราะเด็กๆ ปัจจุบันมักจะเล่นกับคอมพิวเตอร์หรือแท็บเลตมากกว่าออกไปวิ่งเล่นกลางแจ้งกับเพื่อนๆ และกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยว ทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน รวมถึงปัญหาพัฒนาการด้านร่างกายและไอคิวถดถอย
ดั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเติบโตและมีพัฒนาการที่ดีควรสนับสนุนให้ลูกได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ อย่างโอเมกา 3,6,9 ซึ่งสามารถหาได้ง่าย จากน้ำมันถั่วดาวอินคา นำมาใช้เป็นน้ำมันทำอาหารให้ลูกน้อยของเราทาน เพื่อสมองจะได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกันกับการออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและกระดูกยืดตัวได้ดียิ่งขึ้น
อยากให้ลูกมีพัฒนาการเร็วใช่หรือไม่
คุณรู้หรือไม่! กรดไขมันโอเมกา 3-6-9 จากถั่วดาวอินคามีมากกว่าจากปลาทะเลถึง 50%
กระตุ้นพัฒนาการลูกด้วยการนอนที่ถูกต้อง
- ผลวิจัยพบว่าการพาลูกเข้านอนไวมีแนวโน้มที่จะทำให้ลูกนอนหลับได้นานขึ้นจากการวิจัยพบว่า คุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกเข้านอนไวขึ้น 1 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 คืนทำให้เด็กนอนหลับได้นานเพิ่มขึ้น 27 นาทีต่อคืน
- เด็กที่นอนหลับอย่างเหมาะสมมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างแตกต่างจากเด็กที่นอนหลับไม่เพียงพอเด็กที่เข้านอนไวขึ้นรบกวนชั้นเรียนน้อยลง มีสมาธิมากขึ้น และมีความหุนหันพลันแล่นน้อยลง
- เด็กในวัยอนุบาลและเด็กในวัยประถมที่เข้านอนเร็วขึ้นจะมีความจำที่ดีขึ้นตั้งใจเรียนมากขึ้นเมื่อเทียบกับเด็กที่นอนช้ากว่า50% ของเด็กวัย 5 ขวบที่เข้านอนหลัง 3 ทุ่มมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าเด็กที่เข้านอนก่อน 3 ทุ่ม
- เวลาที่เหมาะสมต่อการนอนของลูกควรเร็วขึ้น 20 นาที สัก 2 – 3 คืน แล้วติดตามผลว่าเป็นอย่างไรหากลูกหลับง่ายก็ควรให้ลูกเข้านอนเร็วขึ้นที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องจำกัดการดูทีวีการใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของลูกก่อนเข้านอนด้วยนะค่ะ
อาหารเสริมพัฒนาการสมองของลูกน้อย
- โอเมก้า 3, 6, และ 9 ช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง
- วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
- ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง
- โปรตีน จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- แคลเซียม เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน
- ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกายและสมอง
- วิตามินบี 6 และบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
